วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะคิ้ว ตอน เทคนิคการกันคิ้ว

                คิ้วคือโครงหน้า คือสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรพลาด ถ้าคิ้วสวย หน้าของเราจะดูสวยเกิน ห้าสิบเปอร์เซ็นต์แน่นอน เราจึงต้องหมั่นรักษารูปทรงของคิ้ว จะกัน จะถอน จะเขียน หรือ จะไปทำสามมิติ ก็แล้วแต่ หากทำให้เราดูดีขึ้น ก็อย่ารีรอที่จะสวย
                แต่ก่อนที่เราจะไปพึ่งพา กรรมวิธีต่างๆที่ต้องเสียเงิน เรามาลองดู วิธีการจัดแต่งรูปทรงคิ้วด้วยตัวเองกันก่อนดีกว่าค่ะ ขอแชร์ว่า เมื่อก่อน ก็ไม่กล้าทำอะไรกับคิ้ว เพราะกลัวอย่างเดียว กลัวแหว่งฮ่ะ แต่หลังจากฝึกจนชำนาญการ ปัจจุบันสามารถกันคิ้วได้ แถมกันให้คนอื่นได้ด้วย วันนี้ เลยอยากนำเสนอ เทคนิคง่ายๆ เอาไปใช้กับคิ้วจ้า
ขั้นตอน ฝึกกันคิ้วด้วยตัวเองง่ายๆ
1.        ก่อนอื่น เราต้องรู้จักคิ้วของตัวเอง ก่อน แล้วก็ดูว่า คิ้วที่เป็นรูปทรงสวยงามเป็นอย่างไร
  • หัวคิ้ว ควรอยู่ตำแหน่งเดียวกันกับหัวตา
  • จุดสูงสุดของคิ้ว ควรอยู่แนวเดียวกับขอบตาดำด้านนอก
  • ลากเส้นจากปีกจมูกไปถึงหางตา เพื่อหา ความยาวคิ้ว
  • หางคิ้ว ควรชี้ลงมาถึงแค่แนวของหู ส่วนที่ทัดดอกไม้ ไม่ควรชี้ลงมาถึงติ่งหู เพราะจะทำให้ดูคิ้วตก
  • ความกว้างของคิ้วจะค่อยๆไล่จากหัวคิ้วไปที่หางคิ้ว


เราสามารถใช้ดินสอเขียนคิ้ว วาดโครงคิ้ว ขึ้นมาก่อน ถอน หรือ ลงมีดจริง 
2
             ไม่กันคิ้ว หรือ ถอนขนคิ้ว บนหลังคาคิ้ว ซึ่งเป็นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแหว่งสูง
3.        อาจจะเริ่มจากการใช้แหนบ ถอนขนคิ้วที่ เกินจากแนวที่ต้องการออก ถ้าเราเป็นคนคิ้วบาง หรือปลายคิ้วแตกกระจายไม่มีทรง ไม่ต้องกังวลใจกับจำนวนขนคิ้วที่ลดน้อยลง เราจำเป็นต้องกำจัดทุกเส้นที่เกินแนวคิ้วที่ต้องการออก
4.        ฝึกการใช้มีดกันคิ้วให้ชำนาญ มีดที่แนะนำคือ มีดโกนขนนก ซึ่งมีความคมสูง การใช้มีดกันคิ้วจะไม่ทำให้หนังบริเวณรอบคิ้วหรือดวงตา โปนหรือห้อย ซึ่งมักเกิดขึ้นเวลาที่เราใช้แหนบถอนขนคิ้ว
5.        
        ถ้าเรามีเส้นขนติ้วที่ยาว หนา ดำ อาจจะต้องซอยคิ้วออกไปบ้าง (ใช้มีดกันคิ้ว หรือ ใช้กรรไกร อันเล็กๆ ก็ได้)
6.        
         ใช้ดินสอเขียนคิ้ว เติมโครงคิ้ว หรือเติมคิ้วส่วนที่หายไปจากคิ้วที่เราคิดไว้ เช่น ใต้คิ้ว หางคิ้ว เป็นต้น
7.        


      
         ใช้แปรงปัดคิ้ว กับอายแชโดว์ สีน้ำตาลอ่อน ระบายหัวคิ้วคิ้วให้ได้รูปทรง ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลเข้มที่ปลายคิ้ว
8.       
         ถ้าเราเป็นคนคิ้วดำ แต่ทำผมสีน้ำตาล อาจใช้มาสคาร่าคิ้ว สีน้ำตาลค่อยๆไล่ปัดไปตามแนวคิ้ว

9.        สาวหน้ายาว ไม่ควรกันคิ้วโก่ง หรือเรียวเกินไป เพราะจะทำให้หน้าดูยาวขึ้นไปอีก ส่วนสาวหน้ากว้าง อาจจะต้องใช้ความโค้งของคิ้วมาดึงให้หน้าดูยาวขึ้น
        
        พบกับเทคนิค ภาคต่อ เกี่ยวกับคิ้วได้อีก แน่นอนค่ะ ^^
        Visit Us at
        BeautyGuru Fanpage




        Image courtesy of Stuart Miles/FreeDigitalPhotos.net



วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เตรียมผิวสวยเริ่มแต่งหน้า รองพื้นดีมีชัยเกินครึ่ง

                หลังจากเราทาครีมกันแดดแล้ว เราจำเป็นต้องรองพื้นใบหน้าของเราเพื่อเพิ่มความเรียบเนียน และปกปิด แก้ไขข้อบกพร่องบนใบหน้าของเรา
ผู้หญิงส่วนใหญ่เข้าใจว่า การแต่งหน้า คือการทาตา ทาปาก ปัดแก้ม แต่จริงๆแล้ว ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ การรองพื้น เปรียบเสมือน ครึ่งหนึ่งของการแต่งหน้าเลยทีเดียว เพราะเราสามารถปกปิดรอยแดงรอยดำทั้งหลาย และปรับแต่งรูปหน้า ให้กลายเป็นรูปหน้าที่เราต้องการได้ ขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนการลงสีสันต่างๆ จึงเป็นเทคนิค ที่หากเรารู้ และนำไปใช้ เราจะแต่งหน้าได้ ละม้ายผู้เชี่ยวชาญกันเลยทีเดียว
                ก่อนอื่น เริ่มจากการลง Primer เพื่อช่วยปรับสภาพผิวหน้าของเรา ทำให้หน้าเนียนเรียบ เพิ่มการกระเจิงของแสง Primer จะมีลักษณะ ใส ไม่มีสี เมื่อเราทาลงไปแล้วจะสัมผัสได้ ว่าผิวเราจะลื่นขึ้นทันที
จากนั้น เราสามารถใช้ เมคอัพ เบส ซึ่งเป็นตัวรองพื้นที่ไม่มีสี ลงเพื่อช่วยให้การแต่งหน้าติดทนนานยิ่งขึ้น
เรามาเริ่ม แก้ไข รูปหน้ากันเลยดีกว่า
เริ่มจากการใช้ คอนซีลเลอร์ หรือรองพื้นชนิดครีม ปกปิดข้อบกพร่องบนใบหน้า เช่น รอยสิว จุดด่างดำ ฝ้ากระ โดยใช้รองพื้นสีออกโทนเหลืองเพื่อปกปิดรอยแดง และใช้รองพื้นสีออกโทนแดง เพื่อปกปิดรอยดำ แต้มแล้วเกลี่ยเบาๆ แต่ถ้าเราไม่ได้มีร่องรอยอะไรมากนัก แค่รองพื้นตามปกติ ก็อาจจะเพียงพอแล้ว

จากนั้น ใช้รองพื้นที่สีเข้มกว่าหน้าเราเล็กน้อย ทำการแก้ไขรูปหน้า หากเรามีกรามที่ใหญ่ อยากจะลดให้มีขนาดเล็กลง หรือ ปรับจมูกให้ดูโด่งขึ้น สร้างหน้าให้มีมิติ อาจใช้ Contouring Stick ลงตามพื้นที่ในรูป

ใช้รองพื้นสีสว่าง เน้นส่วนที่ต้องการให้โดดเด่น เช่น หน้าผาก ใต้ตาที่มักคล้ำดำ คาง เป็นต้น
จากนั้น ลงรองพื้นตามสีผิวของเรา เกลี่ยให้กลมกลืน พยายามอย่าให้แสงและเงาที่เราสร้างไว้หายไป
จากนั้นก็ลง แป้งฝุ่น ซึ่งสามารถเลือกใช้ตามสีผิวเรา แต่ใช้แปรงปัดแป้ง ปัดแป้งสีที่เข้มกว่าผิวเรา ปัดเน้นๆบริเวณที่เราทำ Shading อีกครั้งหนึ่ง

ไว้มาต่อกัน คราวหน้านะคะ ^^
Visit us at



Image courtesy of jackthumm / FreeDigitalPhotos.net

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

How to แต่งตาสีฟ้า ฉบับย่อ วิธีง่ายๆในการสร้างสีสันให้ชีวิต

เป็นไงบ้างคะเพื่อนๆ ช่วงนี้ เพิ่งพ้นฮัลโลวีนมา ต่อไปก็ต้องรอลอยกระทงแล้วสินะ หลังจากที่เดือนตุลาคมพายุฝนฟ้าคะนองไปกว่าครึ่งค่อนเดือน เวลานี้ หน้าหนาวที่แสนร้อนอย่างบ้านเรา กำลังย่างกรายเข้ามา การแต่งหน้าด้วยสีโทนเย็นๆ เช่น สีฟ้า สีน้ำเงิน น่าจะทำให้ดับร้อนกันไปได้พอตัว ลองมาดู การแต่งตาสีฟ้าแบบง่ายๆ เก๋ๆ ก่อนไปทำงาน กันดีกว่าค่ะ


เริ่มต้นง่ายๆ ทาเบส รองพื้น ให้ทั่วเปลือกตาก่อน
ลงสีฟ้า ที่กึ่งกลางตา เลยมาจนถึงหางตา (พยายามอย่าให้โดนหัวตา)



ใช้แปรงทาตา ลงสีดำเบาๆที่หางตา อย่าให้เลยกึ่งกลางตา แล้วเบลนด์สีให้เข้ากัน


ใช้แปรง smudge กับ eyeshadow สีดำ สร้างเงา ที่ขอบตาล่าง สร้างเงาให้เบ้าตา เลยขึ้นมา


ดัดขนตา จากโคน มาถึงปลาย แล้วใช้มาสคาร่าสีขาว (เป็นเบส) ก่อน เพื่อต่อขนตาให้ดูยาวขึ้น จากนั้นก็ใช้สีดำตามปกติ  


ตกแต่งคิ้วให้ได้รูป (จริงๆควรกันคิ้วก่อน แต่วันนี้ขอสลับนิดนึง ><) ใช้ดินสอเขียนคิ้วสร้างโครงบางๆขึ้นมาก่อน แล้วก็ใช้แปรงปัดคิ้ว กับ eyeshadow สีน้ำตาล ค่อยๆปัดไปตามรูปคิ้ว จะได้ดูสบายๆ ไม่เยอะเกิน



เท่านี้ ก็ได้ ตาสีฟ้า เก๋ๆ ไปทำงานแว้ว อิอิ



ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่








วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เตรียมผิวสวยก่อนแต่งหน้า เทคนิคการบำรุงผิวหน้า



พื้นผิวหน้าของเรา เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเมคอัพใดๆ หากเราเป็นคนหน้าแห้ง หรือหน้ามันกินไป พาลจะแต่งหน้าไม่ติดเอาง่ายๆ เราจึงต้องให้ความใส่ใจกับการบำรุงผิวหน้าของเราเป็นพิเศษ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถซึมได้ถึงชั้นหนังแท้ เพื่อการบำรุงล้ำลึก สารบางตัว เช่น AHA BHA กรดผลไม้ต่างๆ ทำให้หน้าของเราบางลงหากใช้เป็นประจำ เราจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆโดยดูจากสารที่ใส่ ว่ามีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง เช่น สารสกัดจากดอกบราสซิก้า (Brassica Extract) จะช่วยทำให้หน้าเรากระจ่างใส ตามธรรมชาติ สารสกัดจากน้ำมันรำข้าว จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นของผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากนี้ โรงงานที่ผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ หลีกเลี่ยงการใช้ครีมแบบไม่รู้ที่มา หาที่ไปไม่ได้ ไม่รู้แหล่งผลิต เพราะหน้าเราจะพังโดยไม่ทันตั้งตัว
               
 หลักการในการบำรุงหน้า หากเรามี ผลิตภัณฑ์หลายตัว ให้เราเลือกใช้ จากเนื้อใสที่สุด ไปยังข้นที่สุด เช่น ทาเนื้อเจล ก่อนเนื้อครีม เป็นต้น โดยเว้นระยะห่างตัวละ 1-2  นาที เพื่อให้การดูดซึมครีมแต่ละตัวดีขึ้น โดยหลังจากเราใช้ โทนเนอร์เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างขั้นตอนสุดท้าย ยกกระชับผิว จะทำให้ครีมบำรุงต่างๆที่เราทาลงไป ซึมลงไปในผิวได้ดีขึ้น ในตอนกลาวันครีมสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ครีมกันแดดจ้า ซึ่ง เราจะลงเป็นตัวสุดท้าย เอาไว้เราจะไปต่อกันเรื่อง ครีมกันแดดอีกทีนะคะ

พบกับเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ หรือร่วมสนุกกับกิจกรรม ที่  BeautyGuru Fanpage 

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เตรียมผิวสวยก่อนแต่งหน้า ล้างหน้าอย่างไรไม่ให้หน้าเหี่ยวย่น vol. 2



Cleanse your skin
                                                                                                                                                      
ขั้นตอนต่อไป เราก็ต้องทำความสะอาดหน้า โดยใครที่ทา ครีมรองพื้น ครีมกันแดด หรือ แป้งผสมรองพื้น ต้องใช้ครีมน้ำนม หรือ cleansing milk ช่วยในการล้างทำความสะอาดหน้าก่อน หรือ บางคนที่มีผิวหน้าค่อนข้างมัน หรือเผชิญฝุ่นละออง มลภาวะเยอะ ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ช่วยด้วยเช่นกัน ซึ่ง ตัวครีมน้ำนมนี้ จะสามารถช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่มีความมันออกได้ดี ครีมน้ำนมที่ดี มักมีส่วนผสมของสารบำรุง เพื่อช่วยให้หน้าของเรายังคงมีความชุ่มชื้นอยู่ เมื่อล้างออกแล้ว ไม่หลงเหลือความมันไว้มากเกินไป แต่ผิวยังคงมีความชุ่มชื้นอยู่
การใช้ครีมน้ำนม ใช้ได้สองวิธี คือ อาจเอาเนื้อครีมนวดลงไปบนหน้าโดยตรง ขณะที่หน้ายังแห้งอยู่ แล้วค่อยล้างออก หรือ อาจใช้สำลีชุบน้ำเล็กน้อย เช็ดด้วยครีมน้ำนม เพราะหากเราใช้สำลีแห้งเช็ด อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ได้ ซึ่งเทคนิคการทำความสะอาดหน้าในขั้นตอนนี้ คือการล้างหรือเช็ดหน้าตามแนวขน เพื่อไม่ให้เกิดการย้อนกลับขึ้นไปอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขนอีก
จากนั้น เราจะ ล้างหน้าให้หมดจดด้วย เจล (Gel) หรือโฟม (Foam) ล้างหน้า เลือกใช้ตามสภาพผิว ควรเลือกที่มีค่า pH 5.5 คือ เป็นกรดอ่อนๆ จะไม่ทำให้หน้าแห้งตึง หรือสูญเสียน้ำใต้ผิวหนัง ซึ่งจะทำให้ผิวหยาบกร้าน คนที่แพ้งง่าย อาจเลือกใช้เจลล้างหน้า เพราะบางคนอาจจะแพ้สารที่ทำให้เกิดฟองซึ่งมีอยู่ในโฟม ส่วนใหญ่คนที่หน้ามัน จะชอบใช้    โฟมล้างหน้ามากกว่า เจลล้างหน้า เพราะหลังล้างหน้าจะรู้สึกตึงเล็กน้อยให้ความรู้สึกที่สะอาดกว่า แต่คนที่หน้าแห้ง เมื่อใช้เจลล้างหน้าจะรู้สึกดีกว่า เพราะหลังล้าง หน้าจะไม่แห้งตึงจนเกินไป
ถัดจากนั้น เราจะกระชับรูขุมขน และกำจัดสิ่งตกค้างที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้า ด้วยการใช้โทนเนอร์ (Toner, Toning Essence) โทนเนอร์ที่ดีจะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) ซึ่งจะทำให้เกิดการสูญเสียของน้ำใต้ผิวหนัง ผิวจะแห้งกร้าน เราสามารถใช้สำลีกับโทนเนอร์ เพื่อเช็ดทำความสะอาด และ หยดโทนเนอร์ลงบนฝ่ามือแล้วตบเบาๆลงบนใบหน้าของเรา เพื่อกระชับผิวอีกครั้งหนึ่ง โทนเนอร์ที่ดี สามารถตบยกหน้าเรา ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น หน้ายกกระชับ


Deep Cleansing

เราควรจะทำการขัดหน้า หรือสครับหน้า เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เปิดผิวใหม่ ทำให้หน้าดูกระจ่างใส แต่ไม่ควรใช้สครับที่มีผงขัดหยาบ หรือมีขนาดใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ผิวของเราเกิดการระคายเคือง และไม่ควรใช้สครับที่ใส่สารที่มีความรุนแรง กัดผิว เร่งให้ผิวขาว เพราะในระยะยาวหน้าของเราจะบางลง ไม่สามารถทนแสงแดด หรือ กลายเป็นผิวแพ้ง่ายไป สครับที่ดีควรมีผงขัดที่มีลักษณะเป็นเม็ดกลม ควรมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ผสมอยู่ด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น


 ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมที่

             BeautyGuru Fanpage